วิเคราะห์ฟุตบอลยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง “อังกฤษ พบ เนเธอร์แลนด์”

การวิเคราะห์การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศระหว่างทีมชาติ “อังกฤษ” และทีมชาติ “เนเธอร์แลนด์” ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 เป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยการคาดการณ์ที่น่าสนใจหลายอย่าง นี่คือการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับทั้งสองทีม

ทีมชาติอังกฤษ

ทีมชาติอังกฤษ นำโดยผู้จัดการทีม “แกเร็ธ เซาท์เกต” ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทั้งในเกมรุกและเกมรับ ผู้เล่นหลักอย่าง แฮร์รี่ เคน และ ราฮีม สเตอร์ลิง ยังคงทำผลงานได้ดีในทัวร์นาเมนต์นี้ ในแนวรับที่มีนักเตะอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ จอห์น สโตนส์ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของทีมชาติอังกฤษ นอกจากนี้ ทีมชาติอังกฤษยังมีมิดฟิลด์คุณภาพอย่าง เดแคลน ไรซ์ และ จู๊ด เบลลิงแฮม ที่คอยสร้างสรรค์เกมและควบคุมจังหวะของทีมได้เป็นอย่างดี

ฟอร์มและระบบการเล่นของ อังกฤษ

• ฟอร์มล่าสุด : ทีมชาติอังกฤษนั้นนับว่าแสดงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบแบ่งกลุ่มและรอบน็อคเอาท์ พวกเขาชนะการแข่งขันส่วนใหญ่ด้วยการทำประตูที่เฉียบคมจากนักเตะดาวรุ่งอย่าง ฟิล โฟเดน และ แฮร์รี่ เคน ที่ยังคงเป็นผู้เล่นกำลังสำคัญที่อยู่ในแนวรุก
• ระบบการเล่น : แกเร็ธ เซาท์เกต มักใช้ระบบ 4-3-3 หรือ 3-4-3 ซึ่งเน้นความยืดหยุ่นแนวรับ และพลิกจังหวะโต้กลับระหว่างเกม ทำให้ทีมมีทั้งความแข็งแกร่งทั้งในเกมรุกและเกมรับ
• จุดเด่น : การส่งบอลที่แม่นยำและการเล่นที่เป็นทีมได้ดี รวมถึงการเปลี่ยนจังหวะเกมที่รวดเร็ว
• จุดอ่อน : บางครั้งอาจมีความไม่แน่นอนในแนวรับ ซึ่งอาจโดนเจาะและทำให้เสียประตูได้ง่าย

ทีมชาติเนเธอร์แลนด์

ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ นำโดยผู้จัดการทีม “โรนัลด์ คูมัน” ก็ไม่ได้มีฟอร์มที่ยิ่งหย่อนแต่อย่างใด ผู้เล่นหลักอย่าง เมมฟิส เดปาย และ เฟรงกี้ เดอ ยอง ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในศึกบอลยูโรครั้งนี้ กองหลังตัวเก่งอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และ มาตไตส์ เด ลิกท์ ก็เป็นตัวหลักในแดนรับป้องกันการเจาะทะลวงของทีมคู่แข่งได้ดีเช่นกัน เนเธอร์แลนด์ยังได้มือกาวคุณภาพอย่าง ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ที่ช่วยเซฟประตูให้ทีมหลายต่อหลายครั้ง

ฟอร์มและระบบการเล่นของ เนเธอร์แลนด์

• ฟอร์มล่าสุด : เนเธอร์แลนด์ก็มีผลงานที่ยอดเยี่ยมเช่นกันในรอบแบ่งกลุ่มและรอบน็อคเอาท์ ด้วยการเกมการเล่นที่ดุดันและการทำประตูจากนักเตะสำคัญอย่าง เมมฟิส เดปาย และ ดอนเยลล์ มาเลน
• ระบบการเล่น : โรนัลด์ คูมัน มักใช้ระบบ 4-3-3 หรือ 5-3-2 เพื่อเน้นการควบคุมเกมกลางสนามเป็นหลักและการรุกเข้าโจมตีจากผู้เล่นแนวปีก
• จุดเด่น : ความสามารถในการเล่นเกมรับที่แน่นหนาและการโต้กลับที่รวดเร็ว รวมถึงการเล่นลูกฟรีคิกที่มีความเฉียบคม
• จุดอ่อน : การขาดผู้เล่นในเกมรับเมื่อต้องเจอกับทีมที่มีเกมรุกที่รวดเร็ว ก็มีโอกาสเสียประตูได้ หากกองหลักเล่นแบบหลวมๆ

ผลสกอร์ที่คาดการณ์ : อังกฤษ 2-1 เนเธอร์แลนด์ (ในช่วงต่อเวลาพิเศษ)

สรุป

การแข่งขันครั้งนี้เป็นการพบกันของสองทีมที่ถือว่ามีฟอร์มการเล่นดุดันทั้งคู่ทั้งในเรื่องของเทคนิคและแทคติก และผลการแข่งขันจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับมือกับความกดดันและการใช้โอกาสสำคัญในการทำประตู ศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบตัดเชือกครั้งนี้ มาดูกันว่าทีมใดจะได้ผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศต้องมาลุ้นไปพร้อมๆ กัน! ในคืนวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 เวลา 02:00 น.